เทคนิคการถ่ายภาพดอกไม้ให้สวย สำหรับมือใหม่

ดอกไม้สวยๆ ดูแล้วสดชื่นสบายตาสบายใจ ใครๆก็อยากเก็บภาพไว้ดู
การจะถ่ายภาพดอกไม้ให้สวยๆ เห็นแล้วงดงาม ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายนัก

หากเราไม่รู้หลักการถ่ายภาพที่ดี ก็อาจถ่ายมาไม่คม ไม่สวยอย่างคนอื่นๆเค้าถ่ายกัน
ดังนั้นอยากถ่ายภาพให้สวย ต้องเข้าใจหลักการถ่ายภาพ องค์ประกอบภาพ และ รู้เทคนิคกันพอสมควร
ไม่ใช่ใครๆก็ถ่ายให้สวยได้นะ อยากถ่ายภาพดอกไม้ให้สวย ตามมาเรียนรู้ด้วยกันครับ

 

 

 

 เทคนิคการถ่ายภาพดอกไม้ให้สวย

1.ถ่ายในช่วงเวลาตอนเช้า  

ถามว่าทำไมต้องตอนเช้า ตอนกลางวันตอนเย็นไม่ได้รึ
คำตอบคือ ถ้าจะถ่ายจริงๆก็ได้ทุกเวลาแหละ แต่เวลาช่วงเข้าจะสวยที่สุดครับ
เพราะเช้าๆเราจะได้แสงแดดอ่อนๆละมุน ยามเช้าดอกไม้จะยังบานเต็มที่เพื่อรับแสวอาทิตย์ จะสวยที่สุด
และถ้าอากาศเย็นๆหรือฝนตกก็ได้ละลอกน้ำค้างติดอยู่ที่ดอกไม้ จะได้ความงดงามของดอกไม้
บางคนก็บอกว่าถ่ายตอนเย็นๆก็ได้แสงอุ่นๆก็สวยไปอีกแบบ อันนี้ก็ไม่ผิดนะ แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน

. .

 

2.ใช้แสงนุ่ม( Soft light)
ถ้าอยากได้ดอกไม้สีหวานๆ นุ่มนวลชวนฝัน ให้ใช้แสงนุ่มครับ
แสงนุ่มคือแสงในร่ม หรือแสงที่ผ่านตัวกรอง เช่น ใต้ต้นไม้ หรือในรุ่มเงา ที่ดอกไม้ไม่โดนแดดตรงๆนั่นแหละ
แสงนุ่มจะทำให้เหมาะกับการถ่ายที่ต้องการเน้นบรรยากาศนุ่มนวล สีสันแนวหวานของดอกไม้ได้ดีที่สุด

  

 

3.การตั้งค่ารูรับแสง (F- stop )ในการถ่ายดอกไม้

การถ่ายภาพดอกไม้และการถ่ายภาพทุกประเภท ต้องเรียนรู้การเลือกใช้รูรับแสง (F-stop) ให้เข้าใจ
จะใช้ค่าเดียวถ่ายทุกครั้งทุกแนวไม่ได้นะ ต้องปรับรูรับแสงให้เป็น

การเน้นดอกให้ให้เด่นลอยมา เค้าเรียก ภาพชัดตื้น (shallow depth of field)
ชัดตื้นคือ หน้าชัดหลังเบลอ หรือหน้าเบลอหลังชัดก็ได้

ถ้าต้องการฉากหลังเบลอๆ อย่าใช้รูรับแสงกว้างสุด อย่าใช้รูรับแสงกว้างเกินไปนะครับ
เพราะมันจะทำให้ความคมชัดไม่เพียงพอ (ตัวเลขยิ่งน้อย ระยะคมชัดก็ยิ่งน้อย) โฟกัสตรงไหนก็ชัดตรงนั้น
นี่คือสาเหตุที่หลายๆคน ภาพดอกไม้ไม่ชัดทั้งดอกไง

จึงอยากให้เข้าใจเรื่อง การเลือกใช้ค่ารูรับแสง (F-stop )เพราะมันเป็นพื้นฐานการถ่ายภาพที่สำคัญมาก จะได้เลือกใช้ให้ถูก

 

ตัวอย่าง ภาพที่ใช้ค่ารูรับแสงน้อยเกินไป ความคมชัดไม่พอ

.  

รูรับแสงเริ่มที่กว้างสุด(1.0  1.2  1.4  1.8  2.8) ไม่เกิน F4    (ตัวเลขยิ่งน้อย ระยะคมชัดก็ยิ่งน้อย)

 

ตัวอย่าง ภาพชัดตื้น กับ ค่ารูรับแสงที่เหมาะสม

  .

 

ถ้าต้องการถ่ายภาพให้คมชัดทั้งภาพ ชัดทั้งดอก เรียกว่า ชัดลึก (depth of field)
ถ่ายภาพให้ชัดทั้งภาพให้เริ่มต้นที่ f 8 11 16 22   จำกันไว้ง่ายๆคือ ค่ารูรับแสง เป็นตัวกำหนดฉากหลัง
ตัวเลขมากๆขึ้น ฉากหลังก็จะยิ่งชัดขึ้น 

 (ถ้าฉากหลังชัดจริงๆ ฉากหลังจะต้องอยู่ระนาบเดียวกัน ในภาพข้างล่างฉากหลังไกลจึงยังเห็นว่าไม่ชัด)

 

 

ตัวอย่าง ภาพดอกไม้ที่ใช้ชัดลึก หรือถ่ายให้คมชัดทุกดอก หรือ ทั้งภาพ

     

 

 

4.เลนส์สำคัญต่อการถ่ายภาพดอกไม้ ควรเลือกเลนส์ให้ถูก

.            .

 

ถ้าเรามีแต่เลนส์คิดติดกล้อง ถามว่าจะถ่ายดอกไม้ให้สวยได้มั้ย คำตอบคือได้ แต่อาจไม่ดีพอครับ
เพราะเลนส์ที่ติดกล้องมาจะเป็นเลนส์ที่มีรูรับแสงที่ผันแปรตามช่วงซูม คือไม่คงที่ (หรือที่เรียกกันว่าF ไหล)
เลนส์คิดจะมีรูรับแสงระหว่าง F 3.5 – 5.6 หรือ F 4 – 6.3 เวลาซูม รูรับแสงจะไปให้มากขึ้นตามไปด้วย
ทำให้เราไม่สามารถคุมค่ารูรับแสงช่วงต้นได้ อยากเปิดรูรับแสงให้กว้างสุด จะทำไม่ได้หากต้องซูม
ซึ่งต่างจากเลนส์ฟิกซ์(Fix lens) หรือเลนส์โปร (Prime lens) ที่จะควบคุมการใช้รูรับแสงได้ตลอดไม่ว่าจะซูมหรือไม่ซูม

ในการถ่ายภาพดอกไม้ บางคนที่ชอบถ่ายแนว โลกใบเล็ก ถ่ายเจาะเน้นๆ ก็ต้อง เลนส์ Macro เลยครับ
คนที่เป็นสายดอกไม้ อยากถ่ายดอกไม้ให้สวยสมใจ ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับความชอบของตัวเอง

 

Macro Lens  F 2.8

.           

 

สำหรับการถ่ายภาพดอกไม้ แนะนำว่าควรมีเลนส์ที่มีรูรับแสงคงที่ และ มีรู้รับแสงกว้างอย่างน้อย F 2.8  จะได้คุมฉากหลังได้ดังใจ

 

Nomal lens  F 2.8

         

 

5.ให้ความสำคัญกับพื้นหลัง หรือ ฉากหลัง 

การถ่ายภาพดอกไม้ ทุกคนก็คงชอบที่จะให้ฉากหลังเบลอๆ
แต่อยากบอกว่า ถ่ายดอกไม้ไม่จำเป็นต้องเบลอเสมอไปนะ เพราะฉากหลังมีความสำคัญมาก
ทำให้ภาพดูมีรายละเอียดมากขึ้น และสามารถสร้างเรื่องราวในการนำเสนอได้อีกด้วย

 

          

 

ฉากหลังเป็นส่วนหนึ่งในการเล่าเรื่อง เป็นตัวสะท้อนแนวคิดและการนำเสนอเกี่ยวกับโลเคชั่นที่ดี
ลองๆเล่าเรื่องด้วยฉากหลังดูบ้าง จะได้ภาพที่น่าสนใจไปอีกแบบครับ

 

 

6.ถ่ายภาพเเบบ close -up เพื่อให้เห็นรายละเอียดของดอกไม้ ถ่ายให้เห็นทุกอนู

บางครั้งการถ่ายแบบระยะใกล้ๆก็ทำให้ภาพมีความน่าสนใจขึ้นได้ อาจจะใช้ระยะโฟกัสที่ใกล้ที่สุดของเลนส์ที่เรามี
หรือ ถ้าสายมาโคร ก็จะมีระยะโฟกัสที่ใกล้กว่าเลนส์ทั่วไป ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่เจาะลึกรายละเอียดได้ดีกว่า

 

           

จุดเด่นของดอกไม้บางประเภท ไม่ใช้กลับดอก แต่เป็นเกสร ต้องโฟกัสให้ถูก

การถ่ายภาพดอกไม้ให้ดูน่าสนใจและตระการตาก็คือการถ่ายระยะใกล้
ให้เห็นทุกอนูของเกสร ก็จะทำให้ภาพดูน่าสนใจและสวยงามมากขึ้นได้

 

          

 

7.ถ่ายตอนที่มีน้ำค้างเกาะบนดอกไม้ บนใบไม้ก็น่าสนใจ.

นอกจากความสวยงามของดอกไม้ที่เราถ่าย ทั้งใกล้ๆและไกลแล้ว
เพิ่มความน่าสนใจและความสวยงามได้อีกวิธีหนึ่งคือ การถ่ายหยดน้ำที่อยู่บนกลีบหรือดอก
ความสวยของหยดน้ำยามเช้าเพิ่มเสน่ห์ได้อีกมาก แต่ต้องถ่ายเน้นให่หยดน้ำเด่นๆหน่อยนะ

 

 

 

8.ใช้เเสงช่วยสร้างความโดดเด่น

แสงเป็นสิ่งสำคัญในการถ่ายภาพทุกแนว ดอกไม้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
เพราะ แสงจะเพิ่มความสวยงามให้กับภาพได้อย่าน่าอัศจรรย์

เวลาถ่ายภาพควรเดินดูแสง หาทิศทางของแสง ในการถ่ายภาพ จะทำให้ภาพของเรานั้น ดูมีเสน่ห์มากขึ้น

 

          .

ทิศทางของแสงมีหลายประเภท อยากเก่งเรื่องแสงต้องเรียนรู้
แต่ทิศทางของแสงที่เรามักใช้ในการถ่ายภาพดอกไม้จะใช้อญุ่แค่
แสงด้านข้าง(Side light) แสงด้นบน (Top light) รวมทั้ง แสงด้านหลัง (Back light)

 

.         

 

9.เก็บภาพมุมกว่าด้วยหลักการวางองค์ประกอบภาพแบบ pattern

การวางองค์ประกอบภาพ ปกติทุกคนคงจะใช้หลักการของ จุดตัด 9 ช่อง หรือ กฏ Rlue of third
แต่ก็มีรูปแบบการวางองค์ประกอบภาพอีกหลายอย่างที่คนถ่ายภาพนำมาใช้กันเช่น มินิมอล(Minimalist)
และรูปแบบอีกแนวในการถ่ายภาพดอกไม้ก็คือ Pattern
เป็นการซ้ำของวัตถุหรือจุดสนใจ แบบเดียวกัน ชนิดเดียวกัน วางซ้ำกัน สม่ำเสมอกันอย่างเป็นระเบียบ
เช่น การถ่ายดอกไม้ที่เป็นแนว เป็นแผงเหมือนๆกัน เป็นการถ่ายให้เห็นภาพรวมของดอกไม้นั่นเอง
เหมาะสำหรับการเก็บภาพให้เห็นภาพรวมทั้งหมด หรืออยากเก็บภาพแบบเต็มๆเฟรม

 

.         

 

10.ใช้ฉากหลังดำ ทำให้ดอกไม้เด่น มีเสน่ห์น่าค้นหา

การถ่ายภาพโดยทั่วไปก็จะเน้นการ ถ่ายให้ฉากหลังเบลอ หรือฉากหลังที่มีเรื่องราว
รูปแบบอีกอย่างที่นิยมกันคือ การถ่ายภาพดอกไม้ ให้ฉากหลังดำ
การถ่ายภาพแบบฉากหลังดำนี้ จะช่วยทำให้ภาพจุดเด่นโดดเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน

.           

 

 เทคนิคการทำให้ฉากหลังดำ

1. หาฉากหลังที่มีความมืดกว่าจุดเด่น หรือ ดอกไม้ (ถ้าฉากหลังขาว หรือ สว่างกว่าถ่ายยังไก็ไม่ดำ)
2.ให้ใช้ระบบวัดแสงเฉพาะจุด(spot) วัดแสงที่ส่วนสว่าง (hi-light) ของจุดเด่น ฉากหลังจะดำลง
3.  ถ้ายังไม่พอก็ชดเชยแสงให้ดำได้ตามต้องการ
4. บางคนอาจใช้แฟลชมาช่วยสร้างฉากหลังดำ โดยใช้ชัตเตอร์สปีดสูงๆ ก็ได้เช่นกัน

 

          

 

11. ดอกไม้ กับ โบเก้ (Bokeh )

Bokeh มีความหมายว่าเบลอ หรือ ไม่ชัด ถ้าจะพูดในแง่ของการถ่ายภาพ ก็คือ นอกระยะโฟกัส Out of Focus
หรือ การปรากฏของพื้นที่ในภาพถ่ายที่หลุดโฟกัส

เวลาถ่ายภาพที่ฉากหลังที่เห็นเป็นดวงๆนั่นคือโบเก้ ซึ่งเกิดจากแสงลอด หรือ มีไฟอยู่ด้านหลัง
ดังนั้นการถ่ายภาพให้เกิดโบเก้จะต้องเป็นการถ่ายย้อนแสงเท่านั้น
โบเก้จะดวงใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับรูรับแสงที่ใช้
รูรับแสงกว้าง โบเก้ก็จะดวงใหญ่ รูรับแสงแคบก็จะดวงเล็กลงไปตามค่าที่ปรับ

.         

 

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคการถ่ายดอกไม้ที่น่าจะเป็นแนวทางให้มือใหม่หลายๆคน เอาไปใช้ได้นะครับ
โลกการถ่ายภาพมีอะไรมากมายให้เรียนรู้ อยากเก่ง ต้องฝึกฝนและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ขอให้มีความสุขในการถ่ายภาพ

www.vistaimage.net
#สอนถ่ายภาพสำหรับมือใหม่
#สอนถ่ายภาพให้สวยด้วยมือถือ